top of page
Search

มันฝรั่งรส(ชาติ)คู่ซี้ธุรกิจ

วันก่อนเดินเข้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง (ที่ถ้าคุณดูในรูปที่ผมโพสต์ไว้ ก็คงรู้ว่าที่ไหนนะครับ) ก็เดินโฉบไปตรงหมวดขนมคบเคี้ยว เลี้ยวมาเจอมันฝรั่งเลย์ห่อที่ไม่คุ้นตาสำหรับผม ก็เลยเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ขุ่นพระ!! มันคือมันฝรั่งรสพิซซ่า 2 แบบจากร้านพิซซ่าเจ้าดังอ่ะ

.

พอนึกขึ้นมาได้ จำได้ว่ายี่ห้อขนมเจ้านี้ ก็เพิ่งออกรสพิเศษกับร้านไก่ทอดเจ้าดังไป 2 รสเหมือนกัน ทำไมมันเหมือนกันเลยเนอะ และที่สำคัญมันฝรั่งรสพิเศษของไก่ทอดและพิซซ่าเนี่ย จะมี 1 ใน 2 รส ที่มีขายเฉพาะที่ร้านสะดวกซื้อเจ้านี้เท่านั้นด้วย อืม...ทำไมมันเหมือนกันอีกแล้วล่ะ

มันดูกันต่อทั้ง 2 ร้านอาหารที่มาจับมือกับมันฝรั่งเลย์ ก็ค่ายเดียวกันด้วยนะเนี่ย อืม อืม...ทำไมมันเหมือนกันอีกแล้วล่ะจ๊ะ

.

และจากความเหมือนที่บอกไปสักครู่นี้ ถ้าให้เดา ขั้นถัดไปของออกสินค้ามันฝรั่งรสพิซซ่าออกมาเนี่ย อีกไม่นาน ที่ร้านพิซซ่าแห่งนี้จะต้องมีจัดเมนูพิเศษที่เกี่ยวกับมันฝรั่งแผ่น หรือไม่งั้นก็เอามันฝรั่งสูตรเด็ดนี้ มาเป็นส่วนหนึ่งของเมนูทานเล่น หรือรวบมาอยู่ในชุดอาหาร ตามแบบของร้านไก่ทอด ที่ได้ออกเมนูใหม่ ซึ่งเอาชิ้นมันฝรั่งแผ่น มาเพิ่มสีสันความอร่อยให้ไก่ทอด และเมนูนี้ก็เป็นเมนูช่วงพิเศษมีแค่ระยะสั้นๆ ไงอ่ะ

.

แต่ที่ไม่ต้องเดาแล้ว ใครที่ซื้อมันฝรั่งสูตรพิเศษของรสพิซซ่าจะได้รับส่วนลดในการไปใช้บริการร้านพิซซ่าก่อนทันทีเลยจ้า

.

ทำไมมันฝรั่งกับร้านอาหารถึงทำแบบนี้กันอ่ะ??

.

โดยความเห็นส่วนตัว น่าจะเป็นการทำธุรกิจแบบมีคู่ซี้กัน แต่เป็นคู่ซี้ที่ซี้ย่ำปึ้ก หรือภาษานักการตลาดชอบเรียกเก๋ๆ เป็นภาษาอังกฤษว่า Strategic business partner

.

เป็นการจับมือกันแบบว่าคุณคือคนพิเศษสำหรับแบรนด์ฉันเลยนะยูว์ว์ว์ เราให้คำมั่นสัญญากันว่าเราจะทำธุรกิจด้วยกันในห้วงหนึ่ง หรือยาวนานแสนนานก็แล้วกรณี แต่ภายในสัญญาใจที่เรารักกันเนี่ย ห้ามใครไปปันใจหาคู่ขา หรือกิ๊กคนอื่นในธุรกิจแบบเดียวกัน ไม่อย่างงั้นดีลทางธุรกิจที่แสนจะเอ็กซ์คลูซีฟ (Exclusive) จะกลายเป็นเอ็กซ์พาร์ทเนอร์ (Ex-partner) แทน

.

ถามว่าวิธีทำธุรกิจแบบนี้ น่าสนใจยังไงล่ะ??

.

วิธีนี้จะทำให้คุณทั้ง 2 ฝ่ายเหนื่อยน้อยลงและประหยัดเวลามากขึ้นไงล่ะ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการจับมือข้ามห้วยแดนธุนกิจกัน เรียกว่าแต่ละฝ่ายก็จะมีความถนัดของตัวเอง พอมารักป๊ะกันแล้ว ก็จะมีแบ่งปันความเก่งของตัวเองในการร่วมมือสร้างของอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา ด้วยความเก่งกาจของแต่ละฝั่ง เวลาจะปล่อยของก็ใช้เวลาสั้นกว่าปกติ ที่แต่ละฝ่ายจะไปงมโข่งงมทางทำเอง แต่การทำแนวนี้ต้องบอกว่าทั้ง 2 ฝั่งอยู่ในระดับเดียวกันนะ ไม่ใช่ใครเป็นซัพพลายเออร์ (Supplier) ให้ใคร แล้วสุดท้ายก็เอาความสำเร็จครั้งนี้ไปแบ่งกันเชยชมนั่นเองจ้า ส่วนจะแบ่งเท่าไหร่อันนี้ก็คงอยู่กับตอนที่ตกลงกันตั้งแต่แรกนั่นเองนะ

.

การร่วมมือธุรกิจสไลต์นี้ ผมว่าในอนาคตอาจจะโผล่มาเรื่อยๆ ได้อีก อาจจะเป็นการทำในระดับแบรนด์ใหญ่จับมือกัน หรือแบรนด์กลางๆ ไปคว้ามือแบรนด์เล็กๆ มาก็เป็นไปได้ แต่ไม่ว่าจะจับคู่แบบใด สิ่งที่ต้องระวังไว้ คือข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างกัน พอหลังจากระยะเวลาข้อตกลงทางความรักสิ้นสุดลง ต่างฝ่ายก็ต่างกลับมามีความอิสระเสรีเช่นเดิม พวกความรู้ต่างๆ (know how) ของคู่ซี้ที่เราเคยรู้ อาจจะต้องมีมาตราการป้องกัน เพื่อคุ้มครองสิ่งสำคัญของเราเอาไว้ด้วยเช่นกัน

.

ทุกอย่างมันมี 2 มุมเสมอ ดังนั้นการหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจมันดี แต่การตกลงกันให้ดีตั้งแต่แรก เพื่อไม่ให้มาผิดใจกันในอนาคต ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามผ่านไป ตกลงกันให้เรียบร้อยตั้งแต่ต้น จะได้ทำธุรกิจแบบสบายใจ ว่าแล้วแอดมินไปกินมันฝรั่งห่อดีกว่า เริ่มท้องร้องแล้วอ่ะ

コメント


Post: Blog2_Post
bottom of page