top of page
Search

One for the road หนังนี้มีข้อ(การตลาดได้)คิด

🎬 วันก่อนไปดูหนังเรื่อง One for the road วันสุดท้าย…ก่อนบายเธอ ดูแล้วหนังภาพสวยมาก เนื้อเรื่องก็ดีด้วย เป็นอีกหนึ่งมุมมองเกี่ยวกับความรักที่บางทีเราก็ไม่ได้คิดแบบนี้ หรือเลือกตัดสินใจแบบนี้ แต่ช้าก่อน!! อันนี้เราเป็นเฟซบุคเพจเกี่ยวกับการตลาด เราคงไม่ได้มารีวิวหนังทั้งเรื่องให้ได้อ่านกันนะ

งั้นมาเริ่มเข้าประเด็นกันเลยดีกว่า ในหนัง #Onefortheroad #วันสุดท้ายก่อนบายเธอ มีตัวละครหลักๆ อยู่ 6 คน และทั้ง 6 ตัวละคร มีประโยคเด็ดที่น่าสนใจ ที่เราเอามาตีความในมุมการตลาดได้ด้วยแหละ ปล. ขออนุญาตอาจจะจำคำเป๊ะๆ จากในหนังมาไม่ได้ทั้งหมด ขอยกเป็นในมุมความหมายรวมๆ แล้วกัน

.

🎭เริ่มต้นจาก ตัวละครที่ 1 ที่ชื่อ อลิซ (แสดงโดย พลอย หอวัง) ที่เป็นหญิงคนแรกที่นายอู้ดขอเอาของไปคืน อลิซเปิดโรงเรียนสอนเต้นที่โคราช แล้วบทที่พูดประมาณว่า “…ตอนแรกคนที่มาเรียนเต้นกับเราเป็นวัยรุ่น แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นรุ่นนี้แทน (ผู้สูงวัย)…” >> ในมุมการตลาดล่ะ การทำธุรกิจสักชิ้นขึ้นมา แน่นอนว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณ เป็นเรื่องสำคัญ แต่มันก็มีโอกาสที่สักวันธุรกิจยังเหมือนเดิมได้ (ถ้ามันยังเวิร์คอยู่) แต่กลุ่มลูกค้าอาจจะมีคนหน้าใหม่เข้ามาได้ หรือพลิกผันเอาคนกลุ่มใหม่มาแทนที่ 🧐 เราก็ต้องดูบ่อยๆ นะ ว่าช่วงนี้ลูกค้าที่แวะมาอุดหนุนเราเป็นใคร หรือลูกค้าหน้าเดิมของเราหายหน้าหายตาไปด้วยมั้ย?

.

🎭ตัวละครถัดมา ชื่อ หนูนา (แสดงโดย ออกแบบ ชุติมณฑน์) หรือชื่อที่เรียกในวงการ คือ นูน่า เพราะตัวละครนี้เป็นนักแสดง ในฉากที่ยกมา คือ ตอนที่สัมภาษณ์กับนักข่าว เกี่ยวกับความสามารถทางการแสดง นูน่าพูดว่า “…การที่มีประสบการณ์ความรักที่ไม่ดี เราก็เอามาปรับกับการแสดงได้…” >> มุมการตลาดขอขยี้ความประทับใจไม่รู้ลืมของลูกค้า 🧐 ลูกค้าบางคนอาจจะเจอความประทับใจสุดปังจากธุรกิจของเรา อันนี้เค้าก็เอาไปบอกต่อแบบชื่นชม กลับด้านกันบางคนก็เจอประสบการณ์สุดพัง แล้วก็เอาไปเล่าสารพัดสารเพว่าไม่ดีอย่างงั้นอย่างงี้ อย่าลืมล่ะ!! ประสบการณ์ครั้งเดียวที่เกิดขึ้น ใครจะไปรู้ว่าครั้งนี้จะอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เค้ายอมจ่ายเงินให้เราก็ได้ ให้คิดแบบนี้ไว้เสมอ แล้วคุณอยากจะจบให้สวย หรือให้ซวยล่ะ?

.

🎭มาถึงคนที่ 3 ชื่อ รุ้ง (แสดงโดย นุ่น ศิรพันธ์) ที่อยู่เชียงใหม่ ในเรื่องการมาเจอกันครั้งสุดท้ายนี้ เป็นการเจอที่ไม่ได้เจอกัน เพราะฝั่งฝ่ายหญิงไม่ขอเจอ พร้อมกับคำเด็ดที่ว่า “…ถามพี่หรือยัง ว่าพี่อยากเจอมั้ย…” >> มาตีความแบบการตลาดกัน เวลาเราคุยหรือขณะขายของกับลูกค้า เราถามลูกค้าบ้างป่าว และพอเราถามแล้ว เราตั้งใจฟังลูกค้าจริงๆ จังๆ ด้วยป่าว 🧐 ที่มาย้ำตรงนี้ เพราะว่าเวลาลูกค้าบอกความต้องการ แล้วสินค้าของเราไม่สนอง need ลูกค้าได้ เราทู่ซี้ยังยัดเยียดของอื่นๆ ให้ลูกค้าต่อ ประมาณมีคนเข้าร้านฉันแล้วฉันต้องได้เงินจิ หรือเราบอกผ่านกับลูกค้าว่าเราไม่มีแบบนี้จริงๆ

.

🎭ตัวละครที่ 4 ชื่อ พริม (แสดงโดย วี วิโอเล็ต) จากช็อทที่อู้ดไปบอกรักพริม แต่อู้ดดันถามพริมไปว่าทำไมไม่รักตัวเค้าล่ะ พริมเลยตอบกลับมาว่า “…ก็เพราะแกไม่ใช่บอสไง…” >> การตลาดก็อยากจะบอกว่า คุณเคยซื้อของสักชิ้นแล้วพอใช้จนหมดเกลี้ยง แต่พอไปซื้ออีกครั้งในใจสั่งกล้ามเนื้อมือให้หยิบของยี่ห้ออื่นแทนล่ะ ประมาณว่าใจไม่อยากพรากเราให้ห่างกันไป 🧐 บางคนจะมีวิธีคิดในการซื้อของ ฉันอินและฟินกับสินค้านี้อ่ะ มันบอกไม่ได้ทำไมถึงซื้อ บางทีก็บอกว่าใช้มานานตั้งแต่เด็ก ยี่ห้อนี้หาง่ายไปที่ไหนก็เจอ หรือเหตุผลสั้นๆ ว่า “เคยชินจ้า” แต่ไม่ว่าลูกค้าจะบอกว่าซื้อของเราว่าอะไร เจ้าของแบรนด์ทั้งหลาย อย่างเพิ่งเอาไปสรุปทันทีว่านี่คือจุดแข็งของฉันไง เพราะคุณต้องคุ้ยหาลงไปอีกว่า มันมีอารมณ์ หรือพฤติกรรมการซื้อเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยป่าว เพราะบางทีลูกค้าไม่ได้พูดกับเราตรงๆ ทีม Data หรือ Research ช่วยเรื่องนี้ได้ ลองเคาะประตูไปปรึกษากันดู

.

🎭ข้ามมาฟากตัวละครฝ่ายชายบ้าง เริ่มจาก อู้ด (แสดงโดยไอซ์ซึ ณัฐรัตน์) ตอนที่เป็นฉากได้ย้ายเข้าไปอยู่ห้องของบอสที่นิวยอร์ก แล้วมีประโยคหนึ่งพูดว่า “…อยากลองใช้ชีวิตแบบแกบ้าง จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง…” >> คุณรู้จัก Persona ของลูกค้ากันบ้างป่าว? งั้นเล่าเร็วๆ เจ้าสิ่งนี้คือ ภาพรวมลูกค้าเป้าหมายของเราที่เรารู้จักเค้าในมุมต่างๆ ทั้งข้อมูลพื้นฐาน เพศ อายุ อาชีพ เงินเดือน แต่ข้อมูลพวกนี้มันพื้นฐานไปแล้ว สมัยนี้ต้องสแกนลึกเข้าไปถึงระดับความคิดลูกค้าเลยจ้า 🧐 หนังสือเรื่อง The Grid ในส่วนของลูกค้า ก็เขียนบอกว่าสิ่งที่เราควรรู้จากลูกค้า สิ่งหนึ่งในนั้น คือเป้าหมายในชีวิต หรือเป้าหมายในการใช้สินค้าชิ้นนี้ ไหนๆ จะทำ Persona ของลูกค้าแล้ว อย่าลืมเอาจุดหมายในชีวิตของลูกค้าไปแปะลงใน Persona ด้วยล่ะ

.

🎭และตัวละครสุดท้าย คือ เสี่ยบอส (แสดงโดย ต่อ ธนภพ) เรียกแบบตามที่อู้ดเรียกในเรื่อง “…เราขับรถให้แกได้ แต่แกต้องสัญญาก่อนว่าแกต้องกลับไปทำคีโม…” >> มุมมองสุดท้ายจากการตลาดที่อยากหยิบมาจากหนังเรื่องนี้ คือ สัญญากับลูกค้า 🧐 เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด การสัญญาอะไรกับลูกค้าไว้ เราควรทำตั้งใจทำให้ได้ เรียกว่าเป็นภารกิจหลักเลยก็ว่าได้ บางแบรนด์ถึงขั้นเอาเรื่องคำมั่นสัญญาในสินค้าและบริการ เป็นวลีหลักของธุรกิจ เพื่อเอามาย้ำเตือนตัวเองเสมอ ว่าตั้งแต่คิดออกแบบสินค้า ผลิตของออกมาจริงๆ จนถึงลูกค้าเอาไปใช้ ตั้งแต่ต้นน้ำลากยาวยันปลายน้ำ ถ้าเรานึกถึงลูกค้าและมีคำมั่นสัญญากับลูกค้า ว่าเราตั้งใจจะมอบสินค้าหรือบริการให้ดีที่สุด #สิ่งนี้มันดูยากแต่คุณก็ทำได้นะ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกธุรกิจ

.

🌹ตอนนี้หวังว่าทุกคนจะเห็นมุมมองการตลาด ที่เราหยิบจากข้อคิดจากหนัง เรื่อง One for the road มาฝากกัน ใครยังไม่ได้ไปดู ถ้ามีโอกาสก็ขอชวนไปดูกันนะ และโพสต์ตอนวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เป๊ะ ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันแห่งความรักมากๆ นะ จบแล้วจ้า สวัสดี🌹

#จันทร์นี้มีอะไร #วาเลนไทน

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page