😋 ความขนมครก EP.2 😋
.
ตอน EP.1 ได้เล่าไปเกี่ยวกับความสร้างสรรค์ในการทำ #ขนมครก แบบขนาดจัมโบ้ใหญ่กว่าเดิม เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับตัวสินค้ายิ่งขึ้น วันนี้เราจะมาเล่าในมุมประสบการณ์การซื้อขนมครกในตลาดรวมทรัพย์ ตรงโซนอโศกกันหน่อย
.
ด้วยความที่ขนมครกพอขึ้นจากเตาร้อนๆ มาจะร้อนระอุสุดๆ กินตอนนั้น ปากอาจจะพ่นไฟออกมาได้ และถ้าปิดฝากใส่กล่องทันที ตัวขนมก็จะแอบชื้นแอบเหี่ยว พอเดินถึงออฟฟิต ขนมครกไม่เต่งตึง ย้วยยาน จะกินทีก็ไม่ฟินแล้ว หนักไปกว่านั้น บางทีปิดฝากล่องมาแล้ว เดินแกว่งแขนแรงจัด หรือหิ้วของหลายสิ่ง พอเปิดกล่องมาอีกที น้องขนมก็ไปนอนกองรวมกันอยู่ที่ด้านเดียวอีก
.
.
คุณพี่คนขายก็เลย ช่วยจัดแจงแก้ไขปัญหา 2 ข้อ พร้อมกัน ทั้งขนมเหี่ยวเวลาปิดฝากล่องตอนร้อนๆ และเดินเหวี่ยงแขนจนขนมเลื่อนหน้าคว่ำไปกองเลเทะ ด้วยการเอาไม่ปิดฝากล่องขนม และเอาเจ้า Max หรือ Staple มาเย็บมุมล็อกไว้สองมุมของถุง (ตามรูป) เพื่อให้ถุงไม่เอียงไปเอียงมา และขนมก็ได้ระบายความร้อนออกมาบ้างไปพร้อมกัน
.
.
#MarketingDiary #ขอจบขมวดปม ว่า...เป็นความเข้าใจลูกค้าอย่างมากๆ เลย หรือคงเคยได้ยินลูกค้าบ่นว่า หิ้วถุงไปหิ้วถุงมา ขนมกระจายเปรอะไปหมด และฝาขนมครกที่ปิดคู่กันไว้ก็เจอความเหวี่ยงถึงตีลังกา จะเปิดกล่องออกมากินก็ไม่น่าอร่อยแล้ว แบบนี้ประสบการณ์ลูกค้า ที่มาซื้อขนมร้านเราก็ได้รับการดูแล และส่งมอบแบบปลอดภัยหายห่วง ตั้งแต่รับขนมแสนอร่อยจากหน้าร้าน จนเดินกลับไปขึ้นไปทำงานที่ออฟฟิต พร้อมหยิบขนมเข้าปากแบบฟินเฟร่อ
.
เหมือนคำคมที่ที่เกี่บวกับประสบการณ์ของลูกค้า ของคุณ Eric Ries ที่บอกว่า "Success is not deliver a feature, it is learning how to solve the customer's problem" แปลแบบผม ก็คือ ความสำเร็จของแบรนด์ ไม่ใช่ส่งมอบของให้ลูกค้าท่าเดียว แต่มันคือการเรียนรู้และคิดว่าจะแก้ปัญหาของลูกค้ายังไงด้วยนะ
.
พวกเรื่อง Customer Experience (CX) หรือประสบการณ์ลูกค้า ไม่ใช่เรื่องใหม่แล้วของสมัยนี้ แต่ความท้าทายอยู่ตรงนี้! เราจะยังไงให้ลูกค้ารู้สึกถึงเรื่องนี้ได้ เหมือนแค่การเอา Max มากดทีสองที บนถุงขนมครกนั่นเองจ้า
Comments