ป้ายนี้ตรงเคาน์เตอร์...น่ารักดีนะ

➡️ ป้ายนี้ตรงเคาน์เตอร์...น่ารักดีนะ

. เดินมาซื้อกาแฟที่ #TrueCoffee สาขาเอ็มควอเทียร์ ชั้น 3 กำลังต่อคิวอยู่ ตรงหน้าเคาน์เตอร์มีป้ายขนาดพอดีพอดี แปะอยู่อันหนึ่ง (จริงๆ คงแปะมานานแล้ว แต่ไม่เคยเห็น) เขียนด้วยคำสั้นๆ ได้ใจความน่ารักดีอ่ะ เขียนไว้ว่า . "ขออภัยหากพนักงาน พูดเสียงดังหรือถามซ้ำ เพื่อรักษาระยะห่างในการป้องกันไวรัส COVID-19"

.

. ☕ เป็นอีก 1 ป้าย ที่ตรงกับสถานการณ์ในเวลานี้เลย ที่ทั้งคนซื้อของใส่หน้ากาก 😷 น้องพนักงานก็ใส่หน้ากาก และยังมีเจ้าแผ่นอะคริลิคใสกั้น ระหว่างกลางอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันความปลอดภัยของเชื้อโรคที่น่าปวดหัวจัง . 🤔 ถามว่าข้อความนี้ พิเศษอะไรยังไงหรอ??? . ก็บอกเลยว่าไม่ได้มีความพิเศษอะไรนะ แต่สิ่งที่เขียนไว้ มันซ่อนการ #เข้าใจ บวก #ใส่ใจลูกค้า ไปพร้อมๆ กัน เรารู้ว่าบางที คุณสั่งออเดอร์ แต่เสียงที่ถูกเปล่งออกมา จากการใส่หน้ากาก บางทีน้องๆ อาจจะได้ยินไม่เคลียร์ กลัวส่งมอบเครื่องดื่ม หรือขนมไม่ถูกต้องกับสิ่งที่อยากกิน มีบางทีที่น้องๆ อาจจะขอถามย้ำ ถามซ้ำ หรือมีใช้ระดับ เสียงที่ดังขึ้นบ้างเล็กๆ น้อยๆ เพื่อความชัวร์ของออเดอร์ และเป็นการทวนด้วยว่า คุณสั่งสิ่งเหล่านี้ถูกต้องใช่มั้ยอ่ะ .

#นักการตลาดจะได้อะไรจากเคสนี้หรอ บางที #NewNormal หรือ #NowNormal ทำให้พฤติกรรม ของลูกค้าเปลี่ยนไป แต่แบรนด์ก็ยังดูแลลูกค้าได้เช่นเดิม ถ้าคุณสังเกตว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปเนี่ย มันสร้างความอึดอัดได้ ก็จับความไม่สะดวก หรือความไม่สบาย ให้กลายมาเป็น มุมของการเข้าใจลูกค้า แล้วแสดงความตั้งใจจากแบรนด์ ว่าเรารับรู้ตรงจุดนี้ แล้วก็พร้อมบริการคุณให้ดีเหมือนเคย ดังนั้นเราจึงต้องขอทำอะไรสักอย่าง เพื่อรักษามาตราฐาน การบริการของเราไว้นั่นเอง และต้องกล้าบอกลูกค้าให้รู้ไว้ จะมีบางสิ่งที่ไม่เหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือความใส่ใจจากเรา . ทำแบบนี้ก็แลนดิ้งสวยๆ ได้เลย ถ้าตามข่าวกลางเดือน มิ.ย. 2565 จะเริ่มได้ถอดหน้ากากกันแล้ว นี่คือ #NextNormal อันถัดไป ที่กำลังจะกลับมา แบรนด์คุณเตรียมตัวกับการเปลี่ยนแปลงรอบนี้แล้วยัง?

.

ถ้า "ยัง" ล่ะ บอกเลยว่า "ยังมีเวลาอีกนิด" นะ ที่จะเตรียมพร้อม Next Normal อันถัดไป ที่ใช้เวลาไม่นาน จะกลายร่างมาเป็น Now Normal ให้คุณได้อยู่กับมันต่อ ขอให้เตรียมพร้อม และลุยต่อ ประมาณนี้แหละ จบจ้า สวัสดี