กลยุทธ์ธุรกิจช่วง COVID-19

วิกฤติ COVID-19 เราต้อง "รู้"

วิกฤติธุรกิจเราต้อง "สู้"

ยอมรับเลยว่า ช่วงนี้เรื่องไวรัสโคโรน่า หรือ Covid-19 กระแทกเข้าตา กระแทกเข้าหูกันทุกเวลาหลังอาหาร 3 มื้อเลย บางทีก็ได้รับข่าวสารกันแบบ Real Time ทันทีทันใด แต่สิ่งหนึงที่น่าสนใจสำหรับเรื่องนี้ คือว่าธุรกิจจะปรับตัวอย่างไรดีเนี่ย ภายใต้เหตุการณ์หรือสถานการณ์แบบนี้ วันนี้เราก็เลยอยากหยิบบางมุมมองที่น่าคิดมาฝากกัน กับตอนนี้ที่มีชื่อว่า...กลยุทธ์ธุรกิจช่วง COVID-19 ซึ่งมีดังนี้จ้า

.

C = Can Do & Can Think จังหวะแบบนี้ คุณควรกล้าคิดกล้าทำในเรื่องที่ตอบโจทย์ธุรกิจด้วยวิธีคิดใหม่ๆ แปลกๆ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเลยครับ นี่จึงเป็นไอเดียกลยุทธ์แรกเริ่มเลย ที่อยากฝากเอาไว้คือ คิดให้เต็มที่ คิดให้เต็มเหนี่ยว เพราะสถานการณ์มันกระทบกันไปหมด ถ้าเรายังทำตัวแบบเดิมๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นิ่งสนิทตลอดเวลา ผมว่าคุณอาจจะได้ปิดธุรกิจสนิทแน่นอนอ่ะ ท่องไว้เราสามารถคิดได้ เราสามารถทำได้ และเราสามารถดูแลจัดการธุรกิจของเราได้

อาทิ ถ้าคุณเป็นธุรกิจซุปเปอร์มาร์เก็ต อาจจะมีชุดอาหารที่ต้องกักตัวออกมาขาย พร้อมวิธีปรุงแบบเป๊ะๆ ทำปุ๊บอร่อยปั๊บ แล้วส่งถึงบ้านกันไปเลย

.

O = Opportunity with Options โอกาสตอนนี้ราทำอะไรได้บ้าง สังเกตดีๆ ตรงคำว่า Option ผมใส่ตัว S ด้วย แสดงว่าเรามีทางเลือกมากกว่า 1 ทางนะ ดังนั้นทางออก หรือทางแก้ธุรกิจไม่ได้มีแค่ 1 หนทางถ้วน กลยุทธนี้เราต้องการให้คุณคิดให้เยอะ แบบไร้ข้อจำกัด คิดได้คิด คิดแล้วคิดเพิ่ม คิดออกก็คิดต่อ สิ่งที่น่าปวดหัว ได้แก่ เราชอบคิดไม่ออก พอคิดไม่ได้ ก็เลยช่างมันไม่ทำอะไร!! แล้วก็ปล่อยเละเทะเละเลย มันไม่ใช่ครับ ผมเชื่อเสมอว่ามันต้องมีสักทางที่คุณต้องทำได้ แต่กว่าจะได้มา มันก็ไม่ง่ายนะ บางคนโชคดีคิดครั้งแรกครั้งเดียวก็คิดออกเลย แต่บางคนก็คิดจนปวดสมอง เอาน้ำลายวนแบบอิคคิวซังแล้ว ก็ต้องใช้เวลาถึงจะคิดได้ #ได้คิดเพื่อให้คิดได้ มาดูตัวอย่างกัน หากคุณเป็นธุรกิจประกัน หากอยากประกัน COVID มันก็เหมือนชาวบ้านที่ทำกัน ทำไมไม่ลองคิดแบบซื้อประกันแพ็คคู่ COVID สามีซื้อให้ภรรยาได้ หรืออีกทางเลือกลูกค้าที่มีแต่ประกันชีวิตหรือออมทรัพย์ ถ้าอยากอัพเกรดมีประกัน COVID จากเพิ่มอีกแค่ 49 บาทต่อปีก็ได้คุ้มครองทันที หรือช่วงนี้คนไม่ออกจากบ้าน เราก็ควรทำให้ลูกค้าสะดวกซื้อประกันผ่าน LINE ได้มั้ย เห็นมั้ยมันมีตั้งหลายทางเลือกอ่ะ

.

V = Voice of Employee หรือเสียงของพนักงานของเรา ในช่วงอันสั่นคลอนแบบนี้ พนักงานของเราก็อาจจะรู้สึกได้ว่า บริษัทจะเป็นยังไงบ้าง แล้วเราจะโดนร่างแหเกี่ยวหรือไม่ ผู้บริหารทั้งหลาย เมื่อบริหารงานแล้ว อย่าลืมบริหารคนด้วยล่ะ พวกเขาอาจจะอยากรับรู้สถานการณ์ในองค์กรด้วยเช่นกัน นอกจากข่าวสารที่รับกันจนบ้าระห่ำ บอกความจริงกับพนักงาน และสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน มันคือสิ่งที่ต้องทำในห้วงเวลานี้เลย วิธีการง่ายๆ คุณเคยถามพนักงานในบริษัทคุณบ้างป่าว ว่าช่วงนี่เค้าเดือดร้อนอย่างไรบ้างในการมาทำงาน หรืออยากให้ช่วยสนับสนุนอะไรบ้าง ไม่ใช่สั่งให้พวกเขา Work At Home ลูกเดียวอ่ะ

.

I = Integration not Interruption การผสมผสานและการมองย้อนกลับไปที่เป้าหมายของธุรกิจ เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กับ 3 ข้อที่บอกไปแล้ว เมื่อตอนต้นปีคุณประกาศอะไรไว้ เมื่อปีก่อนคุณวางแผนวางปีนี้จะทำอะไร หรือตอนหลายปีก่อนๆ คุณวาดฝันของปี 2020 ว่าเราต้องการ "เห็น" หรือ "เป็น" อะไร ก็ต้องพูดตรงๆ ว่าบางอย่างไม่เป็นไปตามฝันได้ แต่สิ่งที่ทำให้ฝันเป็นจริงได้ คืออยู่กับปัจจุบันและเข้าใจเสมอว่าเราทำสิ่งนี้อยู่ เพื่อตอบข้อไหนของธุรกิจของเรา หรือสิ่งที่ทำมันอยู่นอกเหนือจากสิ่งที่เราเขียนแผนธุรกิจไว้ ผมว่าไม่ผิดที่จะแก้ไขมันบางมุมบางข้อ แต่ไม่ใช่ล้มกระดานเริ่มใหม่หมด คิดไว้เสมออันนี้เราทำไปเพื่ออะไร และตอบมุมไหนของธุรกิจเรา

.

D = Diversification การกระจายหรือการทำอะไรให้หลากหลายขึ้น ก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่ถูกนำมาปรับใช้ในช่วงนี้ เช่นทถ้าคุณเป็นธุรกิจโรงแรม แล้วเกิดภาวะยอดจองร่วงกราวดาวดิ้นล่ะก็ คุณจะทำยังไงดี คุณอาจจะต้องคิดว่าที่ของโรงแรมคุณจะแก้ปัญหายังไงได้บ้าง หรือใช้จังหวะนี้ในการปรับปรุงห้องพัก เปิดหลักสูตรระยะสั้นในการทำอาหารในโรงแรม หรือหารายได้จากพื้นที่ต่างๆ ของโรงแรม ไม่ใช่รอแค่ว่าวันนี้มีลูกค้าจองห้องมากี่ห้อง เหลือกี่ห้อง อะไรเทือกๆ นี้นั่นเอง

.

ทั้ง 5 ตัวอักษรของ COVID เป็นเพืยงเครื่องเตือนใจคุณๆ นะครับ และมันเป็นวิธีคิด แต่สิ่งที่ต้องทำ คือลองคิดจริงๆ เพื่อให้ธุรกิจของคุณอยู่รอดได้ และเนื้อหาตอนวันนี้ แค่อยากเตือนทุกๆ คน เอาไว้สั้นๆ "เราไม่อยากตัวคุณเองป่วย และธุรกิจคุณป่วยไปพร้อมๆ กัน" ลองปรับตัวกันดู!! แล้วใช้บทเรียนครั้งนี้ให้เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ของธุรกิจของเรากันนะครับ