มาถึงตอนที่ 2 กันแล้วนะครับ เรื่องราววันนี้ขอวนเวียนเลี้ยวมาที่อาหารการกินสักหน่อย ช่วงที่มีการควบคุมในตอนแรกๆ ผมเชื่อว่าหลายๆ คนต้องมีความอยากไปกินอาหารตามร้านในห้างสรรพสินค้าที่เราคุ้นเคยเคยชินใช่มั้ยล่ะ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน แล้วทำไงดีไปไหนก็ลำบากด้วยในช่วงที่ผ่านมา เคสวันนี้ที่จะหยิบมาเล่ากันมาจากร้านเอ็มเคสุกี้และบาร์บีคิวพลาซ่านั่นเอง ว่าเค้าปรับตัวกันอย่างไรกันบ้างอ่ะ
2 ธุรกิจที่เอ่ยไปก็มีการปรับเปลี่ยนวิธีการขายอาหารของตัวเอง ที่ผสมผสานกับเอกลักษณ์ของร้านตัวเองได้แบบต้องยกนิ้วให้เลยจ้า งั้นขอเริ่มจากฝั่งสุกี้เอ็มเคก่อนแล้วนะ ลองดู 3 ภาพด้านล่างนี้กันนะครับ ผมเอามาจากเฟซบุคของทาง MK https://www.facebook.com/mkrestaurants/
ผมยังไม่อธิบายอะไรนะ ลองมาดูภาพนี้ของพี่ก้อน บาร์บีคิวพลาซ่าบ้าง ผมนำรูปมาจากเฟซบุคของร้านนี้ https://www.facebook.com/BarBQPlazaThailand/ เช่นเดียวกัน
ทั้ง 4 ภาพของทั้ง 2 เจ้าดังเนี่ย มีความเหมือนกัน ก็คือเป็นการขายสุกี้ หรือปิ้งย่างแบบไปหม่ำให้หายอยากที่บ้านของคุณเอง ผ่านอารมณ์ความรู้สึกของรสชาติอาหาร และองค์ประกอบการปรุงเพื่อให้ได้กินใกล้เคียงกับความสุขที่เวลาคุณได้ไปนั่งกินที่ร้านเหล่านี้ ในช่วงโควิด-19 ที่เราต่างขวนขวายถวิลหานั่นเองไงล่ะ
.
สิ่งนี้เค้าเรียกว่า "การตลาดสายอารมณ์ (emotional marketing)" เราสั่งซื้อชุดหม้อสุกี้แบบกินทั้งครอบครัว หรือมินิไซส์หม่ำเป็นคู่รักหรือคนเดียวก็ได้ หรือที่บ้านไม่มีเตาปิ้งย่างอ่ะ พี่ก้อนเลยให้ยืมซะเลย ซึ่งเป็นเตาเดียวกับแบบที่เราคุ้นเคย ทำให้เราได้หวนรำลึกถึงอารมณ์แห่งความสุข จากร้านสุกี้และปิ้งย่างได้นะขอรับ
.
ทำไมมันน่าสนใจล่ะ?
.
คำถามนี้ผมมีคำตอบให้ เพราะ 2 เจ้าดังเค้าไม่ได้มีลูกเล่นแค่นี้นะครับ เค้ายังใส่อีก 1 อารมณ์!! อ่านไม่ผิดหรอกครับ นั่นก็คือ อารมณ์ความสุขแบบที่มีจำนวนจำกัด หรือภาษาง่ายๆ ก็คือต้องแย่งกันหน่อย เพราะความสุขนี้มีไม่มากหากมือไม่ไวด้วย กับจำนวนของที่มีไม่เยอะ รวมไปถึงมีกำหนดเวลาชัดเจนว่าเริ่มขายวันไหน กี่โมง การใส่ตัวกระตุ้นแบบนี้เข้าไป ทำให้ใครหลายๆ คนยิ่งต้องการสูงขึ้นอีกระดับ
.
พอรู้แบบนี้ การใส่อารมณ์ความรู้สึกที่ลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมได้ ถือว่าเป็นอีก 1 กุญแจแห่งการตลาดที่ไม่ควรมองข้ามนะครับ ผมย้ำอีกทีนะ ต้องเป็นสิ่งที่ลูกค้าสัมผัสได้ หรือฉันก็เคยมีประสบการณ์แบบนี้เหมือนกัน เพราะถ้าคุณจะใช้ "อารมณ์" ขายสินค้า แต่ลูกค้า "ไร้อารมณ์ร่วม" กับคุณ งานนี้พูดเลยว่าได้ "อารมณ์เสีย" เลยจ้า
.
และต้องบอกกลยุทธ์ใช้ได้กับลูกค้าบางคนเท่านั้นนะ อย่าลืมว่ายังมีลูกค้าบางคนซื้อของด้วยเหตุผล หรือความจำเป็นอยู่ในโลกใบนี้อยู่ หากคุณเข้าใจลูกค้าจริง คุณจะรู้ว่าลูกค้าของคุณเป็นคนแบบไหนนะครับ ฝากไว้ให้คิดแค่นี้แหละนะ จบตอนนี้แล้วครับ
#ธุรกิจไม่ติดโควิด
תגובות