top of page
Search

3 ความต่าง ห่าง ถ่าง ของการตลาด 5.0 จ้า

เคยสงสัยกันบ้างเอ่ย ว่าการตลาด 5.0 หรือ Marketing 5.0 เนี่ย มีอะไรซ่อนอยู่บ้างอ่ะ แล้วเคยงงมั้ยว่าสาเหตุหลักๆ ของแต่ละแนวคิดเวอร์ชั่นนี้ ถูกคิด ถูกถก มาจากประเด็นไหนในโลกใบนี้หรอ??

.

ตอนนี้อยากชวนคุณย้อน มาค้นหากันว่า เอ๊ะ!! จุดเริ่มต้นของการตลาด 5.0 มันเกิดมาจากอะไรหรอ งั้นมาตามมาดูกันว่า 3 ความห่าง ความต่าง ความถ่าง ที่เปิดเป็นหัวเรื่องไว้ มันคืออะไรหรือ

.

อันที่ 1️⃣ ความห่าง...ของ "สิ่งรอบตัวในสังคม"

👉 หลายปีก่อนๆ เราชอบพูดเรื่องช่องว่างของคนมีเงินเยอะ กับคนมีเงินน้อย แต่ในหนังสือการตลาด 5.0 เล่มนี้ ก็ย้ำคล้ายๆ เรื่องก่อนหน้านี้ แต่ถูกนำไปยืดออกมาเป็น 4 มุมมอง ดังนี้จ้า

.

1. ความห่าง..ของกลุ่มสินค้า คือว่ากลุ่มสินค้าประเภทตรงกลางๆ จะค่อยๆ หายไป เน้นสินค้าสุดขั้วไปเลย เช่น อาหารที่ออแกนิคสุดๆ กับอาหารที่สังเคราะห์ขึ้นมา สายการบินที่ขายที่นั่งให้คุณบินเฉยๆ กับสายการบินที่บริการทุกอย่างให้คุณครบถ้วน

2. ความห่าง..ของแนวความคิด ข้อนี้จะเขียนแบบยกตัวอย่างของต่างประเทศแล้วกัน อย่างอเมริกาช่วงการเลือกตั้งประธานาธิปดีคนใหม่ทีไร จะเห็นขั้วความคิดที่แบ่งออกได้ชัดเจน ใครรักฝั่งไหนก็แสดงออกกันแบบจัดเต็มนั่นเอง

3. ความห่าง..ของไลฟ์สไตล์ ข้อนี้ขอยกตัวอย่างการแต่งบ้านให้คุณเห็นภาพ บางคนจะแต่งบ้านด้วยของน้อยชิ้น Minimal กันไป หรือบางคนก็แต่งบ้านแบบเต็มที่ แต่สุดท้ายไม่ว่าจะแต่งบ้านแบบไหน คนเหล่านั้นก็มีความสุขในแบบของเค้านั่นเอง

4. ความห่าง..ของคุณค่าอาชีพ ประมาณงานที่ถูกมองว่ามีคุณค่า ค่าตอบแทนก็จะสูงกว่า งานแบบไหนที่คุณค่าน้อยกว่า ผลตอบแทนก็น้อยกว่าแบบเห็นได้ชัด

.

🏁 พอเห็นแบบนี้แล้ว ทุกเรื่องเหมือนจะมีความต่างสุดขั้วหัวท้ายซ้ายขวาหมดเลย จะทำการตลาดภายใต้เงื่อนไขนี้ ถามว่าทำแบรนด์ชัดเจนไปเลย ก็ตอบโจทย์เหมือนกัน แต่อาจจะต้องระวังการเติบโตของแบรนด์ที่จะเกิดขึ้น ว่าจะไปได้แบบดูกันยาวๆ มั้ย หรือบางแบรนด์อาจจะเลือกอยู่ตรงกลางๆ แต่ใช้ Segment ย่อยมาเสริฟความสนุกสุดขั้วของแต่ละกลุ่มก็ได้เช่นกัน อย่างที่บอกไปทุกอย่างมีข้อดีข้อด้อยคนละแบบ อยู่ที่ว่าตัวคุณชอบแบบไหน อันนี้ให้เป็นแนวทางไว้ชวนคุณไปคิดต่อ

.

อันที่ 2️⃣ ความต่าง...ของ "การได้อยู่บนโลกดิจิทัล"

👉 ก่อนหน้านี้เวลาเราพูดเรื่องโลกดิจิทัล ความแตกต่างที่เกิดขึ้นบนสิ่งนี้ ทุกคนจะชอบพูดถึง #การเข้าถึงหรือการใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือ #การเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน แต่สำหรับตอนนี้ ไม่ใช่แล้วจ้า!! เพราะความต่างของเรื่องนี้ ถูกยกระดับมาเป็น #การได้อยู่บนโลกดิจิทัล

.

ทำไมถึงกลายเป็นแบบนั้นไปล่ะ?

👉 ปัจจุบันการใช้งานบนโลกดิจิทัล ถูกแบ่งขั้วออกเป็น 2 ส่วน ที่เกิดจากพฤติกรรมของคนเรา

.

ด้านแรก #สายกลัว #สายหลอน #สายติด เช่น

  • กลัว! งานที่ทำอยู่ถูกแทนที่ด้วย AI หรือหุ่นยนต์ พูดง่ายๆ กลัวตกงาน

  • กลัว! ไม่รู้อะไรก่อนคนอื่น หรือรู้ช้ากว่าชาวบ้าน

  • หลอน! ความไม่ปลอดภัยจากการใช้งานบนโลกดิจิทัล

  • หลอน! กับข่าวเกือบจริง ข่าวปลอมในแต่ละวัน

  • ติด! หนึบการใช้ออนไลน์ จนหน้างอคอหักกว่าปลาทูแม่กลอง สุดท้ายนิ้วล็อค ปวดหัว ตาพร่ากันได้

.

อีกด้านเลย ก็จะมาใน #สายสร้าง #สายเกิด อาทิ

  • สร้าง..ธุรกิจจากโลกออนไลน์ได้เป็นกอบเป็นกำ หรือภาษาเก๋ๆ เรียกว่า #เศรษฐ์ศาสตร์ด้านดิจิทัล

  • สร้าง..รูปแบบการใช้ชีวิตใหม่ๆ ด้วยความสะดวกสบายยิ่งขึ้น จากการค้นคว้าวิจัยใหม่ๆ อย่างเช่น #วัคซีนโควิด ไงล่ะ

  • สร้าง..สังคมแห่งความยั่งยืนแบบยืนยาว ผ่านเทคโนโลยีเจ๋งๆ พวกบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ได้นานขึ้นและไม่ทำลายโลก

  • เกิด..การพัฒนาในมุมการอยู่ดีมีสุข แฮปปี้ไลฟ์กันมากขึ้น

  • เกิด..การใช้ข้อมูล ทุกมุมมอง ทั้งการคลิก การเปิดเว็บ การเลื่อนเม้าส์ การไถจอ จนโยงไปเดาว่าลูกค้าต้องการในอนาคต

.

🏁 ถ้าอยากเข้าเส้นชัยในข้อนี้ จริงๆ คนที่ทำการตลาดต้องหันมาโฟกัส 3 เรื่องนี้ ได้แก่

  1. ประสบการณ์ที่ลูกค้าใช้งานแบบใหม่ที่ยังคงความใส่ใจอยู่เหมือนเดิม

  2. ความเฉพาะตัวบนการควบคุมหรือจัดสรรได้เอง

  3. การใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อคนและช่วยสังคมให้ดีขึ้น

.

อันที่ 3️⃣ ความถ่าง...ของ "อายุคนในสังคม"

👉 เรื่องของวัยในสังคมเนี่ยที่นับวัน มาจะยิ่งกว้างสุดขั้วไปเรื่อยๆ ยิ่งมีเด็กเกิดมาใหม่ คนในยุคก่อนที่ยังอยู่ ช่องว่างระหว่างอายุ เอามาลบกันเนี่ย แหม๋ๆๆ แทบจะเป็นเลข 2 หลักปลายๆ หรือไปแตะเลข 3 หลักต้นๆ แล้วเนี่ย และจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ คาดการณ์ว่าปีหน้า 2565 ไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยเต็มตัว และอีก 19 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2573) ถ้ามีคนเดินมา 100 คนจะเจอผู้สูงวัยเกือบ 27 คนเลยแหละ

.

🏁 ด้วยความถ่างของอายุคนในสังคมเป็นแบบนี้ นักการตลาดก็ต้องพยายามหาความต่าง ในการตอบสนองวัยของคน ด้วยเทคนิคทางการตลาดที่ไม่เหมือนกัน เช่น เหล่า GEN Z หรือ Alpha จะมาใช้เทคนิคเกี่ยวกับดิจิทัลมาเสริฟมากกว่าคนยุครุ่น GEN X หรือก่อนหน้า เพราะคนกลุ่มนี้เค้าเกิดมาพร้อมความเคยชินด้านเทคโนโลยีมาตั้งแต่คลอดออกจากท้องแม่ ในอีกมุมคนยุคก่อนๆ ที่ยังคุ้นชินด้านการบริการที่ชอบเจ๊าะแจ๊ะกับตัวบุคคล การบริการที่ให้คนมาช่วยเหลือยังคงทิ้งไม่ได้ด้วย ก็คงต้องลองชั่งน้ำหนักดูว่ากลุ่มลูกค้าของคุณเป็นใคร และมีใครมากน้อยเท่าไหร่ เพื่อจะได้จัดสรรทุกอย่างให้ได้ลงตัวนะ

.

💡เป็นไงบ้างเอ่ย ได้เห็นมุมของต่างของคนในสังคมที่เกิดขึ้นแบบชัดขึ้น แต่การเดินหน้าต่อไปของธุรกิจก็ยังต้องทำ ความท้าทายใหม่ที่เกิดขึ้น คือ จะทำยังไงให้ธุรกิจบริหารจัดการส่วนนี้ได้อย่างสมดุลมากที่สุด เพราะเมื่อเปลี่ยนแปลงอะไรลงไป ยังไงก็ย่อมมีผลกระทบเกิดขึ้นเสมอ แล้วเรามีวิธีรับมือผลจากการเปลี่ยนแปลงยังไง อันนี้คือจุดสำคัญเลยหละ ลองเอาไปคิดต่อกันดู หรือใครมีไอเดียเอามาแชร์กับเราได้เลย ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ ธุรกิจนะครับ

Comments


Post: Blog2_Post
bottom of page